ประเภทการจับรูปแบบจับแบบปากกา หรือจับแบบไม้จีนเป็นสไตล์แบบดั้งเดิม โดยเริ่มต้นจากการติดยางด้านเดียวประเภทการจับแบบปากกาของญี่ปุ่น ถัดมาในช่วงไม่กี่ปีก็มีการพัฒนารูปแบบที่ติดยางสองด้านหรือการจับสไตล์ไม้จีน และเราจะแนะนำตัวอย่างของไม้แบบญี่ปุ่น และจีน มันเป็นการแนะนำในการเลือกอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการหมุน และความเร็ว
เราขอแนะนำไม้ด้ามจับแบบญี่ปุ่น หน้าไม้เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสและความหนาของไม้อยู่ที่ 10 มม. เพื่อเพิ่มแรงในการตีแนะนำให้ใช้คู่กับ “BRYCEHISPEED”
ยางที่มีนวัตกรรม “Microlayer” ง่ายต่อการตี Microlayer ทำให้เกิดการหมุนที่แข็งแกร่ง
ด้วยการรวม ” TENERGY 05 ” และ ” TENERGY 05 FX ” ที่โดดเด่นในด้านการหมุน จะเข้ากันได้ดีกับไม้ ” INNERFORCE LAYER ZLC – CS “
ไม้ที่เกาะลูกได้ดี มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้ง่ายต่อตี และเนื่องจากยางที่ติดทั้งสองด้านทำให้ไม้มีน้ำหนักมากขึ้น ควรเลือกความหนาของยางและปรับให้เข้ากับน้ำหนักที่คุณสามารถตีได้อย่างเหมาะสม
ไม้ ” SK Carbon – CS ” มีน้ำหนักที่เบาและใช้งานง่ายโดยใช้ร่วมกับยางด้านโฟรแฮนด์เป็นยาง ” TENERGY 80 ” ที่ผสมผสานในด้านความเร็วและการหมุน
และยางด้านแบ็คแฮนด์ติดด้วยยาง ” ROZENA ” เพื่อเป็นตัวช่วยในการเกาะลูกปิงปองด้านแบ็ค
ไม้ ” SK7 Classic – CS ” เป็นไม้ที่มีความเร็ว เมื่อมาติดยาง ” TENERGY 64 ” ด้านโฟรแฮนด์ที่โดดเด่นในด้านความเร็ว และยางด้านแบ็คแฮนด์ใช้ ” ROZENA ” เป็นยางง่ายต่อการใช้ความเร็วที่สมดุลและการหมุนในด้านแบ็คแฮนด์ สามารถรวมยางทั้งสองตัวนี้เข้าด้วยกันเพื่อทำให้การเล่นมีความเร็วที่ประสิทธิภาพที่สุด
และเนื่องจากยางที่ถูกติดทั้งสองด้านทำให้น้ำหนักของไม้จะค่อนข้างหนัก ควรเลือกความหนาของยางให้เหมาะกับน้ำหนักที่สามารถตีได้เข้ากับคุณมากที่สุด
สิ่งที่สำคัญที่สุดในพื้นฐานนักปิงปองที่เพิ่งเริ่ม คือการเลือกอุปกรณ์ที่ตีด้วยพลังของคุณเองกับร่างกายที่มั่นคง
เพื่อให้ได้ความรู้สึกในการใส่ความหมุนได้ด้วยตัวเอง
หากคุณเชี่ยวชาญในทักษะพื้นฐานแล้วควรเลือกอุปกรณ์ตามรูปแบบการเล่นของคุณ และตามคุณสมบัติไม้และยางที่คุณต้องการ
เพื่อมาแก้ไขจุดอ่อนเพื่อชัยชนะ นอกจากนี้ผู้เล่นระดับกลางควรจะมีการปรับน้ำหนักของไม้และความหนาของยางตามร่างกายและความแข็งแรงของตัวเอง